งานมงคลส่วนมากแล้วจะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหน้าร้อนของประเทศไทยที่นอกจากอากาศที่ร้อนจัดแล้วยังอาจจะต้องเจอกับพายุฤดูร้อนอีกด้วย หากท่านใดกำลังแพลนที่จะจัดงานในช่วงนี้แล้วพลาดไม่ได้เลยที่จะต้องหยิบปากกามาจดว่าเราควรจะเลือกเช่าเต๊นท์แบบไหนดีให้เหมาะกับงานมงคลของเรา ไปดูกันเลยครับ
1.เต๊นท์ขนาดเล็กที่เน้นความสวยงาม เช่น เต๊นท์ทรงปิรามิด เต๊นท์ทรงฟูจิ เหมาะกับงานที่มีพื้นที่ขนาดเล็กและจำกัด เน้นสร้างบรรยากาศด้วยการจัดวางเต๊นท์ที่นอกจากจะช่วยให้ร่มเงาและยังให้งานของเราดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วย
2.เต๊นท์ทรงจั่ว เหมาะสำหรับกางพักไม่ว่าจะเป็นไซต์งานก่อสร้างกลางแจ้ง ที่จะเป็นสำหรับหลบแดดหรือพักคนงานซึ่งเต๊นท์ทรงจั่วนี้มีข้อดีคือทนแดดทนฝน ลมพายุและเคลื่อย้ายง่ายอีกด้วย
3.เต๊นท์ทรงโดมหรือทรงลูปท็อป เป็นเต๊นท์ขนาดใหญ่ที่มีความสูงโปร่งและมีโครงสร้าง
ที่แข็งแรง เหมาะสำหรับงานที่มีความมาร่วมงานจำนวนมาก และนอกจากนี้เต๊นท์ทรงโดมที่มีขนาดใหญ่นั้นยังช่วยให้อากาศปลอดโปร่งสามารถติดพัดลมช่วยตรงขาเต๊นท์ให้อากาศเย็นสบายขึ้นอีกด้วย
4.เต๊นท์ทรงโค้ง เป็นเต๊นท์ที่นอกจากให้ร่มเงาหรือนั่งพักได้แล้วยังเป็นเต๊นท์ที่นิยมใช้สำหรับจัดงานมงคล งานบุญ งานพิธีต่างๆด้วย เพราะรูปทรงของเต๊นท์ทรงโค้งนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับเต๊นท์โดมแต่ะจะมีขาดเล็กกว่าและราคาถูกกว่าและยังช่วยให้ความสวยงามกับสถานที่จัดงานได้อีกด้วย
5.เต๊นท์ติดแอร์ เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มที่หลายๆคนต้องนึกถึงในช่วงหน้าร้อนนี้แน่นอน นอกจากจะเนรมิตรสถานที่จัดงานให้สวยงามแล้วเต๊นท์ติดแอร์ยังให้ความสะดวกสบาย เหมาะกับช่วงหน้าร้อนเป็นที่สุด ส่วนมากจะนิยมใช้กันในงานกองถ่าย งานมงคล งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ งานพิธี หรือ งานบุญ ที่จัดกลางแจ้งแต่ข้อเสียของเต๊นท์ติดแอร์คือราคาค่อนข้างสูง และใช้เวลานานในการติดตั้ง ถ้าหากงบไม่เยอะพอเต๊นท์ติดแอร์น่าจะไม่ตอบโจท์ยแน่นอนครับ